หลังดูจบรู้สึกยังไง ? รีวิว knock at the cabin เสียงเคาะที่กระท่อม (มีสปอย)

หนังมันไม่มีแก่น หรือถ้ามีคงเป็นการเหยียดเพศที่ว่าเพศชายรักกันเป็นเรื่องผิดธรรมชาติโดยอ้างความเสียสละ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้คนเขียนบทคงไม่น่าคบเท่าไหร่

😊

เฮียแกเฉลยปมน้อยมาก จบแล้วก็ยังไม่อินกับเหตุผลที่ไปบอกให้เสียสละว่ามันจะสำคัญขนาดนั้น

คือคอนเซปหนัง ไม่ได้เปนไร ไม่มีปัญหา มีปัญหากับการดำเนินเรื่องอะ
เคยดู the cabin in the wood มันสนุกกว่านี้ อันนี้ไม่สนุกอะ

เเล้วมันเกี่ยวอะไรกับครอบครัวนี้คะ?

หนังเรื่องนี้ก็ถือว่าทำออกมาได้อย่างน่าสนใจดีนะครับ พี่เศกสุดหล่อ

ดู carbin in the woods ดีฝ่า

ค่าจะเป็น ไอ้กระท่อมในป่าเดียวนั่นแหละ ไอ้กระท่อมรักโลก แต่เป็นช่วงแรกที่ยังควบคุมโดยไอ้ภัยภิบัติ4ตน ต่อมากลายเป็นไอ้ตัวสยองขวัญ

ไม่มีที่มาที่ไป 555

นี้แหละ ไสตล์ ของ m night shyamalan อย่างแท้จริง

สำหรับผม ให้คะแนน 7/10 เหมือนกัน แต่ผมไปดูช่องฝรั่งที่อธิบายว่ามันต่างจากในหนังสือต้นฉบับยังไงบ้าง เลยทำให้มองแบบนี้ครับ

1. ในหนังสือ เหวินที่เป็นลูกบุญธรรม ตายจากการแย่งปืนกัน ระหว่างคนแปลกหน้า กับพ่อของเขา คือมันดาร์กมากอ่ะ ยิ่งตอนจบ ด้วยความที่พ่อทั้ง2คนเสียลูกไปแล้ว เลยไม่สนใจโลก ทั้งสองคนตัดสินใจขับรถออกจากกระท่อมไปด้วยกัน แล้วหนังสือก็จบโดยไม่ได้เฉลยว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรบ้าง … อันนี้ผมชอบมาก อยากให้หนังจบตามในหนังสือเลยด้วยซ้ำ

2. หนังเรื่องนี้เล่าโดยอิงตามคัมภีร์ศาสนาคริสต์ เกี่ยวกับ 4จตุรอาชาวันสิ้นโลก ซึ่งมันrelate กับคนไทยที่ส่วนใหญ่นับถือพุทธได้ยากไปหน่อย ทำให้ตอนที่ดูหนัง เราจะไม่ได้เข้าใจหรืออินเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก หรืออย่างตอนที่1ในคู่รักเกย์บอกว่าเขามองเห็นเงาคล้ายคนอยู่ในแสง คือจะสื่อถึงพระเจ้านั่นหละ แต่คนดูที่ไม่ใช่คริสต์ก็จะไม่ได้เข้าใจอะไรมากไปกว่านั้น

3. การเฉลยตอนจบที่ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกคิดหรือสงสัยต่อหลังจากดูหนังจบแล้ว … สำหรับผมเรื่องนี้ในช่วงแรก เราอาจจะยังสงสัยว่ามันจริงหรือเปล่า จนพอผ่านไปซักพัก มีเหตุการณ์ต่างๆเข้ามา เริ่มจะเชื่อละ จนพอท้ายสุดที่บาติสต้าพูดตามนักข่าวในโทรทัศน์ได้เป๊ะๆ .. อันนี้ผมว่ามันทำให้เรารู้สึกว่าเนี่ยมันคือความจริงแน่ๆ ซึ่งจริงๆถ้าหนังเลือกจะทำให้เหตุการณ์มันดูกำกวมกว่านี้ ปล่อยให้คนดูส่วนหนึ่งเชื่อ กับอีกส่วนหนึ่งที่ยังไม่เชื่อ ไปจนถึงตอนจบได้ มันจะทำให้เรื่องนี้มีการถกเถียงและพูดถึงกันอีกเยอะ แต่เสียดายที่เอ็มไนท์เลือกจะสรุปเรื่องราวในแบบที่หลังดูหนังจบแล้ว เราแทบไม่ต้องกลับไปคิดอะไรต่อเลย

สรุปแล้ว สำหรับผม เรื่องนี้มันยังขยี้ได้มากกว่านี้ ยังใส่นัยยะบางอย่าง เกี่ยวกับความเชื่อได้มากกว่านี้ ซึ่งถ้าเล่าแบคกราวน์ของตัวละครต่างๆให้ดีๆ มันจะสามารถเอาไปตีความเรื่องความเชื่อของตัวละครต่างๆได้ลึกมากขึ้น รวมไปถึงตอนจบที่ดูสรุปได้ชัดเจนมากเกินไปหน่อยจนไม่เหลือตะกอนอะไรไว้ให้คนที่ดูจบได้สงสัยหรือวิเคราะห์ต่อเลย

ตอนแรกคิดว่าเป็นหนังเขย่าขวัญ สงสัยเข้าไม่ถึงสิ่งที่ผู้กำกับอยากจะสื่อ เดินออกจากโรงก่อนหนังจบ 😩

ตอนแรกเรานึกว่าเป็นหนังไล่ฆ่าซะอีก

เห็นคนสปอยในtiktok. ว่าที่อเมริกา​ รายได้​ แซงอวตาร​ 2 ซะด้วย ผมถึงจะไมม่ชอบอวตาร​ บอกได้ว่า หนังแนวนี้นี่นะ​
ส่วนมากรอคิวเจ็ง​ อย่างเดียว

โอ้ว..ผมจะไปดู วันอาทิตย์นี้หล่ะครับ รู้สึกจะชอบอ้ะ

ผม มอง1 ใน 3 นี้ คนที่สละ ชีวิต ก้อ เหมือนคือ ฮีโร่ นั้น เอง

หดหู่ ไม่สู้ หมอกมฤตยู

เรื่องนี้พระเจ้าออกแนวโรคจิต เล่นเกมกับมนุษย์ที่ถูกเลือก

กระท่อมกลางป่า สนุกกว่า พลิกไปพลิกมา มีหักมุมอีก

ไม่อินกับเนื้อเรื่อง

นั่งดูไป บ่นไปหนังปัญญาอ่อน จะตายก็ตายไปด้วยกันทั้งโลกนี้แหล่ะ ทำไมกูจะต้องมาสละชีวิตตัวเองเพื่อคนทั้งโลกด้วยละ ดูแล้วหงุดหงิด